โรงพยาบาลผีสิง Old St. James เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีผีสิงมากที่สุดใน Butte รัฐมอนแทนา กักเก็บพลังแห่งโศกนาฏกรรมกว่า 100 ปีไว้ภายในกำแพง รอยประทับของพลังเหล่านั้นบนอาคารนี้จะคงอยู่ตลอดไปจากเหตุการณ์ในอดีต เมื่อคุณเงยหน้าขึ้นมองสิ่งเก่าที่มีผีสิงอย่างเหลือเชื่อ โรงพยาบาลเซนต์เจมส์ มีอะไรให้คิดมากมายก่อนเข้ามา คุณอาจจะได้พบกับอดีตคนงานเหมือง ทหารสงครามกลางเมือง ผู้อพยพ เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยในชุมชน ทำไมพวกเขาถึงยังอยู่ที่นี่? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? พวกเขามีอะไรจะพูด? นั่นคือสิ่งที่คุณมาที่นี่เพื่อค้นหา
โรงพยาบาล Old St. James ก่อตั้งขึ้นในปี 1881 โดยกลุ่ม Sisters of Charity โดยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนยากจน คนงานเหมือง และผู้อพยพที่แสวงหาโชคลาภในเมืองที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและความมีชีวิตชีวา ด้วยรากฐานที่ย้อนกลับไปถึงสมัยที่ Butte ออกมาจากค่ายเหมืองแร่ในปี 1864 โรงพยาบาลได้ขยายออกไปในช่วงปี 1889, 1896, 1906 และ 1915 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประชากรที่เพิ่มมากขึ้น
ภายในปี 1906 ได้มีการขยายตัวเพิ่มเติมเพื่อรวมโรงเรียนพยาบาล โดยปรับตัวอีกครั้งในทศวรรษ 1940 ด้วยการสร้างและปรับปรุงใหม่ทั้งหมด แม้ว่าจะย้ายการดำเนินงานไปที่โรงพยาบาล Butte Memorial ในปี 1962 และต่อมามีวัตถุประสงค์ต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ธุรกิจไปจนถึงอพาร์ตเมนต์ แต่แก่นแท้ของโรงพยาบาลยังคงไม่มีใครแตะต้อง
โรงพยาบาล Old St. James เป็นแหล่งรวมโศกนาฏกรรม ผนังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า การสูญเสีย และความหวังที่ไม่สมหวังที่มีมานานกว่าศตวรรษ ที่นี่ ม่านระหว่างโลกบางเฉียบ ทำให้มองเห็นอดีตผู้อยู่อาศัยคนงานเหมืองที่ต้องต่อสู้กับชีวิตใต้ดินอันมืดมนของพวกเขา ทหารที่แบกภาระหนักในการรบ ผู้อพยพตกอยู่ในความทุกข์ทรมานของความหวังและความสิ้นหวัง และบุคลากรทางการแพทย์ที่เดินบนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย
สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยเสียงร้องแห่งชีวิตใหม่ บัดนี้กลับมีเสียงสะท้อนอันน่าสยดสยองมากขึ้น ลองจินตนาการถึงความหนาวเย็นที่กระดูกสันหลังของคุณในขณะที่คุณตรวจพบเสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เข้ามาใกล้ทางเดินรกร้าง เสียงฝีเท้าที่ไม่มีเจ้าของโลกอยู่ในสายตา อุปกรณ์สมัยใหม่ของคุณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดยึดของความเป็นจริง อาจหักหลังคุณที่นี่ แบตเตอรี่ของพวกมันหมดลงด้วยการท้าทายตรรกะอย่างอธิบายไม่ได้
บทความโดย : สมัคร ufabet
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *